เที่ยวชมปราสาทวากายามะในเดือนตุลาคม ท่ามกลางสายลมเย็นพัดโชยอ่อนๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

ปราสาทวากายามะเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดวากายามะและเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ในสมัยเอโดะ (ตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึงช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 19) เคยเป็นปราสาทของแคว้นคิชูซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลโทคุงาวะสามสาขา
โครงสร้างอันสง่างามบ่งบอกถึงอำนาจของตระกูลโทคุงาวะสามสาขาที่บอกเล่าต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบันนี้และได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ของปราสาทขึ้นชื่อในญี่ปุ่น

เราได้ไปเยี่ยมชมปราสาทวากายามะเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาและรู้สึกว่าฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงจังหวัดวากายามะที่มีสภาพภูมิอากาศค่อนข้างอบอุ่นตลอดทั้งปีเช่นกัน

ประวัติความเป็นมาของปราสาทแห่งนี้เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1585 เมื่อฮาชิบะ (โตโยโทมิ) ฮิเดโยชิสั่งให้น้องชายของเขาก่อสร้างปราสาท
หลังจากเปิดศึกสงครามที่เซกิงาฮาระในปี ค.ศ.1600 ตระกูลอาซาโนะยึดครองปราสาทแห่งนี้ และต่อมาในปี ค.ศ 1619 ถูกครอบครองโดยโยริโนบุบุตรชายของอิเอยาซุ ผู้เป็นโชกุนคนแรกของรัฐบาลโชกุนโทคุงาวะในสมัยเอโดะ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งแคว้นคิชูซึ่งเป็นสาขาหนึ่งในตระกูลโทคุงาวะสามสาขา
หลังจากนั้นต่อมาบุตรชายของตระกูลคิชู-โทคุงาวะในแคว้นคิชูได้ขึ้นเป็นโชกุนหลายคน โชกุนคนที่ 8 โยชิมูเนะ และโชกุนคนที่ 14 อิเอโมจิที่มีชื่อเสียงก็มาจากตระกูลคิชู-โทคุงาวะเช่นกัน

โชกุนคนที่ 8 โยชิมูเนะได้ดำเนินการปฏิรูปทางการเมืองของรัฐบาลในช่วงกลางของสมัยเอโดะ จึงได้รับการขนานนามว่า “บรรพบุรุษแห่งการปฏิรูปประเทศ” รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของเขาตั้งอยู่ในเมืองวากายามะราวกับว่าปกป้องคุ้มครองเมืองมาตลอดเวลา

ปราสาทวากายามะตั้งอยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่และเป็นสถานที่สำหรับเดินเล่นของผู้คนในท้องถิ่น
นอกจากหอคอยปราสาท (เทนชูคากุ) เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดที่จะไปชม ขอแนะนำสวนนิชิโนมารุที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของหอคอยปราสาทและยังคงรักษาสภาพสวนสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม Kaiyu-shiki ที่สร้างขึ้นในช่วงต้นของสมัยเอโดะ (คริสต์ศตวรรษที่ 17)
สวนนิชิโนมารุ นิยมเรียกกันว่า “สวนโมมิจิดานิ (สวนแห่งต้นเมเปิ้ล)” ที่นี่ขึ้นชื่อในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงดงามยอดเยี่ยม

ในวันที่เรามาเยี่ยมเยือน แม้ว่าใบไม้ยังไม่เริ่มเปลี่ยนสีมากนัก แต่ก็ยังได้ชมทิวทัศน์ของใบไม้หลากสี ทั้งสีเขียว สีเหลืองและสี แดง ที่ผสมผสานกันอย่างสวยงาม

มีอาคารที่ตั้งอยู่ในคูเมือง “เอนเกียวคากุ” เป็นทิวทัศน์อันน่าพิศวง รู้สึกราวกับว่าอยู่ในภาพวาด

เบื้องหน้าของคูเมืองที่มองเห็นคือ สะพาน “โอฮาชิ โรกะ” เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่าง “นิโนมารุ” ซึ่งมีอาคารสำหรับใช้เป็นที่พักอาศัยของเจ้าผู้ครองแคว้นและที่ว่าราชการ กับ “นิชิโนมารุ” อาคารภายในสวนแห่งนี้

เป็นสะพานที่อนุญาตให้เฉพาะเจ้าผู้ครองแคว้นและผู้ใต้บังคับบัญชาเดินผ่านเท่านั้น. สะพานมีกำแพงและหลังคาเพื่อไม่ให้เห็นจากภายนอก

ถ้าแหงนหน้ามองจากหน้าต่างของสะพานจะเห็นหอคอยปราสาทเทนชูคากุ มุมมองวิวนี้ในอดีตมีไว้สำหรับเจ้าผู้ครองแคว้นเท่านั้น

ภายในสวนมีห้องพิธีชงชา “โคโชอัน”

ที่นี่สามารถลิ้มรสชาเขียวมัทฉะและขนมหวานพร้อมกับการชมสวนได้
เสิร์ฟขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ในวันที่เรามาเที่ยวเป็นขนมที่ประทับตราด้วยแบบเผาไฟรูปหญ้าซูซูกิ ที่ให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

ดื่มชาและพักผ่อนหย่อนใจในห้องพิธีชงชาที่เงียบสงบ ใช้เวลาผ่อนคลายพร้อมๆ กับสัมผัสกับสายลมที่สดชื่นในฤดูใบไม้ร่วง

ไปชมหอคอยปราสาทเทนชูคากุกันเถอะ!
หอคอยปราสาทแห่งนี้ถูกเผาจากการโจมตีทางอากาศในสงครามโลกครั้งที่ 2 และสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1958 ตามความปรารถนาของชาวเมืองอย่างแรงกล้า

ภายในหอคอยมีการจัดแสดงสิ่งของล้ำค่าต่างๆ เช่น เกราะของแคว้นคิชู และอื่นๆ

จากหอคอยปราสาทสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองวากายามะได้ นอกจากนี้ในระยะไกลยังสามารถมองเห็นเทือกเขาที่มีโคยาซังซึ่งเป็นมรดกโลกได้อีกด้วย

น่ารักมาก！แสงไฟฟ้าที่ทำลวดลายเลียนแบบ “คิชู เทมาริ” (ลูกบอลในภูมิภาคคิชู) ซึ่งเป็นงานศิลปหัตถกรรมแบบดั้งเดิม

บริเวณด้านนอกของหอคอยปราสาท พบกับนินจาที่ยินดีต้อนรับทุกท่าน “โอโมเทนาชิ นินจา”
พวกเขาคอยให้บริการช่วยเหลือผู้ที่นั่งรถเข็นวีลแชร์ นำเที่ยวชมปราสาท และบริการอื่นๆ ตามจุดต่างๆ ภายในสวนสาธารณะปราสาทวากายามะ

เราได้สัมผัสกับความสวยงามของปราสาทวากายามะท่ามกลางบรรยากาศในฤดูใบไม้ร่วง

ถ้าพูดถึงจังหวัดวากายามะ ขอแนะนำไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยว “นันกิ ชิราฮามะ” ที่ท่านสามารถเพลิดเพลินได้ทั้งธรรมชาติ บ่อน้ำพุร้อน(ออนเซ็น) อาหารทะเล และสัตว์ที่น่ารักๆ!
Trip to Nanki Shirahama in Wakayama
https://att-japan.site/en/archives/6791